เกิดอะไรขึ้นเมื่อเราทิ้งอาหารที่ยังกินได้ให้เป็นขยะ


“ถ้าเราทิ้งไข่ไก่หนึ่งฟอง นั่นหมายความว่าเราไม่ได้แค่ทิ้งไข่ใบเดียว แต่ยังรวมไปถึงการทิ้งน้ำอีก 55 แกลอนให้สูญเปล่า ทิ้งเนื้อหมู 1 กก. เท่ากับทิ้งน้ำไป 6,000 ลิตร เพราะอาหารทุกชนิดต้องใช้ทรัพยากรและเวลาในการผลิต ไม่ว่าจะเป็นน้ำ, แร่ธาตุ, ธัญพืชที่ใช้เลี้ยงสัตว์, ที่ดิน, แรงงาน, พลังงาน และอื่นๆ อีกมากมาย หากเอาสัดส่วนของขยะอาหารที่เกิดขึ้นในแต่ละปีมากองรวมกัน ต้องใช้ที่ดินในการผลิตอาหารที่เราไม่ได้กินเหล่านี้รวมเป็นพื้นที่กว้างใหญ่กว่าผืนแผ่นดินของประเทศจีนเสีย มากไปกว่านั้นที่ดินในการเพาะปลูก หรือทำฟาร์มไม่ได้ลอยขึ้นมาเฉยๆ แต่ต้องแลกมาด้วยการทำลายผืนป่าเดิม ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หลายสายพันธุ์ และบ้านของชนพื้นเมืองหลายเผ่า นี่คือผลกระทบที่มองไม่เห็นจากการทิ้งอาหารที่ยังคงกินได้ และผลกระทบนี้ไม่ได้ครอบคลุมแค่การสิ้นเปลืองทรัพยากรในขั้นตอนการผลิตเท่านั้น เมื่ออาหารถูกทิ้งลงในหลุมฝังกลบ กระบวนการย่อยสลายตามธรรมชาติจะก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งหากจัดอันดับสัดส่วนการผลิตก๊าซเรือนกระจกตามประเทศแล้ว ขยะอาหารจะถือเป็นประเทศอันดับที่ 3 ผู้ผลิตก๊าซเรือนกระจกลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุด เป็นรองแค่สหรัฐอเมริกาและจีน ก๊าซเหล่านี้จะปกคลุมชั้นบรรยากาศส่งผลให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้น น้ำแข็งละลาย, ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศแบบสุดขั้ว ซึ่งในที่สุดแล้ว ผลกระทบจะวนกลับมาทำลายพืชผลทางการเกษตร”

เป็นบทความที่ดี และอธิบายได้ชัดเจนมากในหนึ่งย่อหน้า ถึงผลกระทบของการทิ้งอาหารให้เป็นขยะ ดังนั้นแล้วผมขอฝากอีกหนึ่งเรื่องให้เป็น New Year Resolution ของพี่น้องประชาชนทุกคนในปี 2020 กินอาหารอย่างคุ้มค่า ไม่สั่งมาทิ้งขว้าง เพราะ “การกินให้หมด” มีคุณค่าต่อโลกไม่น้อยไปกว่าการเลิกใช้พลาสติกประเภทครั้งเดียวทิ้งครับ มาช่วยกันนะครับ

อ่านบทความเต็มได้ที่ https://ngthai.com/environment/17253/food-waste-crisis/
 
 79315317_838351643282776_7621084579561996288_o
 
 
 

 

Associate

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พรรคชาติไทยพัฒนา
สุพรรณบุรีเอฟซี